Dr. Sunil International
Dental Center
ขอคำปรึกษาออนไลน์
โทร. +66 086-426-9878
Line @drsunildental
ฟันปลอมเพื่อความสวยงามและการใช้งาน

ฟันปลอมเป็นอุปกรณ์ทางทันตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป สามารถทำได้ทั้งแบบใส่บางส่วน (ทดแทนฟันที่หายไปบางซี่) หรือแบบใส่ทั้งปาก (กรณีที่สูญเสียฟันทุกซี่) เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยกลับมามีประสิทธิภาพในการบดเคี้ยว พูดได้ชัดเจนขึ้น และเสริมบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้น

โดยทั่วไปฟันปลอมมักทำจาก อะคริลิกหรือโลหะ และการออกแบบจะขึ้นอยู่กับสภาพช่องปากของแต่ละบุคคล การใส่ฟันปลอมบางส่วนมีประโยชน์ในการป้องกันฟันข้างเคียงล้มเอียง ขณะที่ฟันปลอมทั้งปากช่วยทดแทนการสูญเสียฟันทุกซี่ในขากรรไกร

ขั้นตอนและระยะเวลาในการทำฟันปลอม

  • การทำฟันปลอมมักใช้เวลาประมาณ 3–4 ครั้งนัดหมาย และแล้วเสร็จภายใน 7 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
  • ในช่วงแรกที่ใส่ฟันปลอม ผู้ป่วยอาจรู้สึกไม่คุ้นเคย จำเป็นต้องใช้เวลาประมาณ 3–4 สัปดาห์ เพื่อปรับตัว
  • หลังจากใส่ฟันปลอมครั้งแรก ทันตแพทย์มักนัดเพื่อตรวจเช็กและปรับแก้จุดที่กดเจ็บ เพื่อให้ใส่ได้สบายขึ้น

การปรับตัวและการดูแลหลังใส่ฟันปลอม

  • ในช่วงแรก อาจมีอาการพูดไม่ชัดหรือพูดลำบาก ซึ่งจะค่อย ๆ ดีขึ้นหากผู้ป่วยฝึกพูดบ่อย ๆ ภายใน 2 สัปดาห์
  • ควรเริ่มรับประทานอาหารอ่อนและตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อช่วยให้ปรับตัวได้ง่ายขึ้น
  • ผู้ป่วยบางรายที่กระดูกขากรรไกรมีการละลายมาก ฟันปลอมอาจไม่แน่น อาจต้องใช้สารช่วยยึดฟันปลอมชั่วคราว
  • หากมีอาการกดเจ็บ ควรกลับมาพบทันตแพทย์เพื่อปรับแต่งเพิ่มเติม

ทางเลือกอื่นนอกจากฟันปลอม

สำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงและใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากขึ้น รากฟันเทียม (Dental Implant) อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือก โดยรากฟันเทียมทำหน้าที่เสมือนรากฟันจริง ช่วยยึดฟันปลอม ครอบฟัน หรือสะพานฟันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้วิธีใดขึ้นอยู่กับสภาพช่องปาก งบประมาณ และการวินิจฉัยของทันตแพทย์เฉพาะทาง

การดูแลรักษาฟันปลอมอย่างถูกวิธี

การดูแลฟันปลอมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อยืดอายุการใช้งานของฟันปลอมและคงสภาพสุขภาพช่องปากที่ดี โดยมีแนวทางดังนี้

วิธีดูแลฟันปลอม

  • ทำความสะอาดหลังอาหารทุกครั้ง
    ควรถอดฟันปลอมออกมาทำความสะอาดด้วยแปรงขนอ่อนและน้ำสะอาด เพื่อลดการสะสมของคราบอาหารและคราบจุลินทรีย์
  • ระวังการตกกระแทก
    ฟันปลอมอาจบิ่นหรือหักได้หากตกพื้น ควรจับให้แน่นขณะทำความสะอาด และควรทำความสะอาดเหนือภาชนะที่มีน้ำรองรับ
  • แช่ในน้ำยาทำความสะอาดฟันปลอม
    อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อช่วยกำจัดคราบและสิ่งสกปรกที่แปรงไม่ถึง และล้างน้ำสะอาดทุกครั้งก่อนใส่กลับเข้าปาก
  • ถอดฟันปลอมก่อนนอน
    เพื่อพักเหงือก ลดการกดทับ และป้องกันการติดเชื้อราหรือการอักเสบในช่องปาก

ฟันปลอม: ทางเลือกในการทดแทนฟันธรรมชาติ

ฟันปลอมถือเป็นวิธีที่ใช้กันมานานและมีค่าใช้จ่ายที่เข้าถึงได้ง่าย เมื่อเทียบกับทางเลือกอื่น เช่น รากฟันเทียม อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ฟันปลอมหรือวิธีอื่นควรขึ้นอยู่กับสภาพช่องปาก งบประมาณ และคำแนะนำจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ประเภทของฟันปลอม

ฟันปลอมเป็นหนึ่งในวิธีการทดแทนฟันที่สูญเสียไป ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้งานการบดเคี้ยวและการพูดได้ดีขึ้น รวมถึงช่วยเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจ ปัจจุบันฟันปลอมมีหลายประเภทให้เลือก ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละบุคคล โดยทันตแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและแนะนำประเภทที่เหมาะสมที่สุด

1. ฟันปลอมเฉพาะซี่แบบถอดได้ (ฐานอะคริลิกธรรมดา)

  • เป็นฟันปลอมที่ใช้ทดแทนฟันบางซี่
  • มีค่าใช้จ่ายไม่สูง
  • ผลิตจากอะคริลิกที่ขึ้นรูปตามช่องปากผู้ป่วย
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ยังมีฟันธรรมชาติหลงเหลืออยู่

2. ฟันปลอมทั้งปากแบบถอดได้ (ฐานอะคริลิกธรรมดา)

  • ใช้ทดแทนฟันทุกซี่ในขากรรไกรบนหรือขากรรไกรล่าง
  • กระบวนการทำมักมีการลองใส่แบบขี้ผึ้งก่อน เพื่อปรับแก้ไขให้พอดี
  • หลังการปรับแบบเรียบร้อย จะผลิตเป็นฟันปลอมจริงด้วยอะคริลิก

3. ฟันปลอมทั้งปากแบบถอดได้ (ฐานอะคริลิกแข็งพิเศษ)

  • ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง แข็งแรงและทนทานกว่าฐานธรรมดา
  • ดูเป็นธรรมชาติและมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า
  • กระบวนการทำคล้ายกับฐานธรรมดา แต่ผลิตภายใต้แรงอัดสูง ทำให้มีความแข็งแรงมากกว่า

4. ฟันปลอมฐานนิ่ม (Valplast หรือวัสดุยืดหยุ่น)

  • ฐานทำจากวัสดุที่ยืดหยุ่นและบางแนบไปกับเหงือก
  • ให้ความรู้สึกสบายขณะใส่ ดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติ
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้เห็นตะขอโลหะของฟันปลอม
  • มีอายุการใช้งานค่อนข้างยาวนาน

5. ฟันปลอมฐานโลหะ

  • มีความแข็งแรงและทนทานกว่าฟันปลอมแบบฐานอะคริลิก
  • ฐานบาง ทำให้สวมใส่สบาย ไม่เกะกะลิ้น โดยเฉพาะฟันปลอมขากรรไกรล่าง
  • มักใช้ร่วมกับฟันปลอมบางส่วน เพื่อให้ยึดเกาะได้ดีและใช้งานได้ยาวนาน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาที่ดีที่สุดในการติดต่อ