คอมโพสิตบอนดิ้ง คือการใช้วัสดุเรซินสีเหมือนฟัน (Composite Resin) ยึดติดกับผิวฟันโดยตรง ด้วยเทคนิคการกรอฟันเพียงเล็กน้อยหรือแทบไม่ต้องกรอเลย จากนั้นจึงใช้สารยึดติดและแสง LED/UV ช่วยทำให้วัสดุแข็งตัวและติดแน่นกับฟัน
ขั้นตอนนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงลักษณะฟัน เช่น ฟันที่มีรอยบิ่น สีหมอง ฟันห่างเล็กน้อย หรือฟันที่ไม่เรียงตัวสวย ซึ่งสามารถทำได้เสร็จภายในการพบทันตแพทย์เพียงครั้งเดียว
ข้อดี
- เป็นวิธีที่ ราคาไม่สูง เมื่อเทียบกับการรักษาทางเลือกด้านความสวยงามอื่น ๆ
- สามารถแก้ไขรูปร่าง สี หรือความยาวของฟันได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- ใช้เวลาไม่นาน บางครั้งเสร็จภายในวันเดียว
- กรอฟันน้อยกว่าวีเนียร์ประเภทเซรามิก
- สามารถซ่อมแซมหรือปรับแก้เพิ่มเติมได้ง่ายในอนาคต
การดูแลหลังทำ
- ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก ควรหลีกเลี่ยงชา กาแฟ ไวน์แดง บุหรี่ หรืออาหาร/เครื่องดื่มที่มีสีเข้ม เพื่อลดโอกาสการเกิดคราบบนเรซิน
- ควรแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ
- เข้ารับการตรวจและทำความสะอาดฟันโดยทันตแพทย์หรือทันตาภิบาลทุก 6 เดือน
- หลีกเลี่ยงการกัดหรือเคี้ยวของแข็ง เช่น น้ำแข็งหรือของแข็งมาก ๆ เพราะอาจทำให้วัสดุบิ่นหรือแตกได้
ข้อควรทราบ ⚖️
- คอมโพสิตเรซินมีอายุการใช้งานสั้นกว่าวีเนียร์เซรามิก (Porcelain Veneer) โดยทั่วไปอยู่ได้ประมาณ 3–7 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแล
- ผลลัพธ์ด้านความสวยงามจะใกล้เคียงธรรมชาติ แต่สีอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เร็วกว่าวัสดุเซรามิก
ขั้นตอนการทำคอมโพสิตบอนดิ้ง (Composite Bonding)
- การปรึกษาทันตแพทย์
นัดหมายเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาหรือความต้องการในการปรับปรุงรอยยิ้ม เช่น การแก้ไขฟันบิ่น ฟันห่าง หรือปรับสีฟันให้สว่างขึ้น - เลือกเฉดสีวัสดุ
ทันตแพทย์จะใช้คู่มือเฉดสี (Shade Guide) เพื่อเลือกสีของคอมโพสิตเรซิน (Composite Resin) ให้ใกล้เคียงกับสีฟันธรรมชาติของคุณมากที่สุด - การเตรียมผิวฟัน
ทำการกรอผิวฟันเพียงเล็กน้อย (หรือไม่จำเป็นต้องกรอเลยในบางกรณี) - การใส่วัสดุคอมโพสิต
ทันตแพทย์จะทาคอมโพสิตเรซินลงบนผิวฟันทีละชั้น และปรับแต่งรูปทรงให้ได้ลักษณะและขนาดที่เหมาะสม - การทำให้วัสดุแข็งตัว
ใช้แสง UV/เลเซอร์ เพื่อทำให้คอมโพสิตเรซินแข็งตัวและยึดติดแน่นกับผิวฟัน - การตกแต่งและขัดเงา
หลังจากวัสดุแข็งตัวแล้ว ทันตแพทย์จะปรับแต่งรายละเอียดและขัดผิวให้เรียบเนียน จนได้ผิวสัมผัสและความเงางามใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ






Line @
เรียก
วอทส์แอพ