การอุดฟันด้วยวัสดุสีเหมือนฟัน หรือที่มักเรียกว่า White fillings / Composite fillings เป็นการรักษาที่ใช้วัสดุเรซินคอมโพสิตซึ่งมีสีใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ เพื่อทดแทนส่วนที่สูญเสียไปจากการผุหรือแตกหัก
ขั้นตอนการรักษา
- ทันตแพทย์จะกำจัดเนื้อฟันที่ผุออก
- ใส่วัสดุอุดฟัน (Composite resin) ลงในตำแหน่งที่เตรียมไว้
- ใช้แสงเฉพาะเพื่อทำให้วัสดุแข็งตัว
- ปรับแต่งและขัดผิวฟันให้เรียบ เพื่อให้การสบฟันเป็นไปตามปกติ
ในบางกรณี หากฟันผุลึกมากจนใกล้โพรงประสาท อาจต้องใช้ยาชาร่วมด้วยเพื่อความสบายของผู้ป่วย
ข้อดีของการอุดฟันด้วยวัสดุสีเหมือนฟัน
- สีใกล้เคียงฟันธรรมชาติ เหมาะกับทั้งฟันหน้าและฟันหลัง
- วัสดุสามารถยึดติดกับฟัน ทำให้โครงสร้างฟันมีความแข็งแรงมากขึ้น
- หากวัสดุเสื่อมสภาพในอนาคตสามารถซ่อมแซมได้
- เป็นตัวเลือกที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าวัสดุสีเงิน (Amalgam)
ข้อจำกัดที่ควรทราบ
- ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเสียวฟันหลังอุด ซึ่งมักจะทุเลาภายในไม่กี่สัปดาห์
- วัสดุอาจเปลี่ยนสีตามระยะเวลาจากอาหารและเครื่องดื่มที่มีสี
- หากฟันผุมีขนาดใหญ่หรือรอยแตกมาก ทางเลือกอื่น เช่น อินเลย์ (Inlay), ออนเลย์ (Onlay) หรือครอบฟัน (Crown) อาจเหมาะสมกว่า
การเปลี่ยนวัสดุอุดฟัน Amalgam
ที่คลินิกทันตกรรมหลายแห่ง ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมใช้ Amalgam แล้ว เนื่องจากมีส่วนประกอบของปรอท หากผู้ป่วยต้องการเปลี่ยนวัสดุอุดฟันแบบเก่าออกเป็นคอมโพสิต ทันตแพทย์จะใช้แผ่นยางกันน้ำลาย (Rubber dam) และเครื่องดูดแรงสูงเพื่อความปลอดภัยระหว่างการทำหัตถการ
การดูแลหลังการอุดฟัน
- ควรตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน
- ถ่ายเอ็กซเรย์ตามความเหมาะสม เพื่อติดตามวัสดุอุดและฟันซี่อื่น ๆ
- หลีกเลี่ยงการปล่อยให้ฟันผุลุกลาม เพราะฟันผุระยะแรกมักไม่เจ็บ หากปล่อยไว้จนปวดอาจต้องรักษาคลองรากฟัน ซึ่งซับซ้อนกว่าการอุดฟันทั่วไป








Line @
เรียก
วอทส์แอพ