หลักการทำงานของรากฟันเทียมคืออะไร?

รากฟันเทียมเป็นรากเทียมของฟันที่ได้ถูกถอนออกไปซึ่งทำหน้าที่แทนรากฟันจริง เมื่อรากฟันตามธรรชาติได้ถอนออกไป, สามารถเปลี่ยนได้ด้วยทันตกรรมรากฟันเทียมในประเทศไทย. โดยปกติรากฟันเทียมมักจะทำมาจากไทเทเนียม ซึ่งมีความคงทนอย่างมากและเข้ากันได้ดีกับร่างการของมนุษย์. ทันตกรรมรากฟันเทียมกำลังจะกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมากกับแบบดั้งเดิม,สะพานฟันแบบถอดได้และ ฟันปลอม หลังจากรากฟันเทียมได้ฝังแล้วและกระดูกขากรรไกรได้รับการรักษาให้เป็นปกติ,ฟันแบบถาวรสามารถติดได้บนรากฟันเทียม ตัวอย่างเช่น ครอบฟันหรือสะพานฟัน

1. ทำหน้าที่เป็นรากฟันแท้

• รากฟันเทียมทำจาก ไทเทเนียม ซึ่งเป็นวัสดุที่เข้ากับร่างกายได้ดี (biocompatible)
• เมื่อฝังลงไปในกระดูกขากรรไกร ร่างกายจะไม่ปฏิเสธ

2. กระดูกยึดติดกับรากฟันเทียม (Osseointegration)

• หลังการฝัง กระดูกขากรรไกรจะค่อย ๆ สร้างเซลล์กระดูกใหม่มาห่อหุ้มและยึดรากฟันเทียมไว้
• ทำให้รากเทียมฝังแน่น เหมือนรากฟันจริง
• ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 4–6 เดือน (ขึ้นอยู่กับกระดูกของแต่ละคน)

3. เป็นฐานให้ฟันเทียมด้านบน

• เมื่อรากฟันเทียมฝังแน่นแล้ว จะติดตั้ง แกนรอง (Abutment) เพื่อเชื่อมกับฟันปลอม ครอบฟัน หรือสะพานฟัน
• ครอบฟันที่ทำขึ้นจะถูกออกแบบให้ สี รูปร่าง และขนาดเหมือนฟันจริง

4. การกระจายน้ำหนักและแรงบดเคี้ยว

• รากฟันเทียมช่วยกระจายน้ำหนักการบดเคี้ยวลงสู่กระดูกขากรรไกรเหมือนฟันแท้
• ต่างจากฟันปลอมถอดได้ที่มักกดลงบนเหงือก ทำให้เหงือกและกระดูกยุบตัวในระยะยาว

5. ช่วยรักษากระดูกขากรรไกรและโครงหน้า

• เนื่องจากกระดูกยังได้รับแรงกระตุ้นจากการบดเคี้ยวผ่านรากเทียม ทำให้ กระดูกไม่สลายเร็ว
• ส่งผลให้โครงหน้าไม่เปลี่ยนรูปและยังดูอ่อนเยาว์กว่าคนที่สูญเสียฟันแล้วไม่ได้ใส่อะไรทดแทน

ขั้นตอนการทำรากฟันเทียม

1. การตรวจและวางแผนการรักษา

• ตรวจสุขภาพช่องปากและสภาพกระดูกขากรรไกรด้วยการ X-Ray หรือ CT Scan
• ประเมินตำแหน่งที่จะฝังรากฟันเทียม จำนวนซี่ และเลือกชนิดของรากฟันที่เหมาะสม
• หากมีปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น โรคเหงือก อักเสบ หรือกระดูกไม่เพียงพอ อาจต้องรักษาหรือเสริมกระดูกก่อน

2. การฝังรากฟันเทียม

• ทำการผ่าตัดเล็กเพื่อฝังรากฟันเทียม (วัสดุไทเทเนียม) ลงในกระดูกขากรรไกร
• หลังจากฝังเสร็จ รากเทียมจะทำหน้าที่เสมือนรากฟันจริง

3. การครอบฟันถาวร (Crown on Implant / Bridge on Implant )

• พิมพ์ฟันเพื่อทำครอบฟันที่มีสีและรูปทรงเหมือนฟันธรรมชาติ
• เมื่อฟันพร้อมแล้วจึงนำมาติดตั้งบนแกนรอง
• คนไข้จะได้ฟันใหม่ที่แข็งแรงและสวยงามใกล้เคียงฟันจริง

การดูแลหลังการทำรากฟันเทียม

• แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันสม่ำเสมอ
• หลีกเลี่ยงการใช้ฟันกัดหรือเคี้ยวของแข็งจัด
• เข้าพบทันตแพทย์ตามนัดเพื่อเช็กสภาพรากฟันและกระดูก

ถ้าผู้ป่วยไม่มีฟันเหลืออยู่ และไม่พอใจกับฟันปลอมอันเก่า

มีตัวเลือกสำหรับการรักษา สำหรับการรักษาฟันที่หายทั้งหมดพร้องด้วยรากฟันเทียมและฟันปลอมยึดติดถาวร

All-on-4 และ All-on-6 รากฟันเทียมทั้งปาก

All-on-4 และ All-on-6 คือเทคนิคการบูรณะฟันทั้งปากโดยใช้ รากฟันเทียม จำนวน 4 หรือ 6 ตัวยึดฟันปลอมชนิดติดแน่นแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป เหมาะสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันหลายซี่หรือทั้งปาก และต้องการกลับมามีรอยยิ้มและการใช้งานฟันที่ใกล้เคียงธรรมชาติ

หลักการทำงาน

• All-on-4 : ใช้รากฟันเทียม 4 ตัว ยึดติดกับฟันปลอมทั้งแผง
• All-on-6 : ใช้รากฟันเทียม 6 ตัว เพื่อเพิ่มความมั่นคงและการกระจายแรงเคี้ยว

รากฟันเทียมที่ฝังเข้าไปจะทำหน้าที่เป็นรากฟันใหม่ เชื่อมต่อกับกระดูกขากรรไกร และทำให้ฟันปลอมติดแน่น แข็งแรง

ขั้นตอนทั่วไปของการรักษา

• ตรวจวินิจฉัย – เอกซเรย์และ CT Scan เพื่อดูโครงสร้างกระดูก
• วางแผนการรักษา – เลือกว่าจะใช้ All-on-4 หรือ All-on-6 ตามสภาพกระดูกและการใช้งาน
• ผ่าตัดฝังรากฟันเทียม – ฝังรากเทียม 4 หรือ 6 ตัวในตำแหน่งที่เหมาะสม
• ใส่ฟันชั่วคราว – หลังฝังรากเทียม อาจใส่ฟันชั่วคราวเพื่อให้ใช้งานได้ระหว่างรอกระดูกยึดกับรากเทียม
• ใส่ฟันถาวร – เมื่อรากเทียมเชื่อมกับกระดูกแล้ว ทันตแพทย์จะใส่ฟันปลอมติดแน่นที่ออกแบบเฉพาะบุคคล

ข้อดีของ All-on-4 / All-on-6

• คืนรอยยิ้มและความมั่นใจ
• ช่วยฟื้นฟูการบดเคี้ยว ใกล้เคียงฟันธรรมชาติ
• ป้องกันการละลายของกระดูกขากรรไกร หลังการสูญเสียฟัน
• ดูแลรักษาง่าย กว่าฟันปลอมถอดได้
• ฟื้นฟูคุณภาพชีวิต ให้สามารถยิ้ม พูด และรับประทานอาหารได้อย่างมั่นใจ

การเลือก All-on-4 หรือ All-on-6

• All-on-4 เหมาะสำหรับผู้ที่มีกระดูกขากรรไกรเหลือไม่มาก แต่ยังเพียงพอให้ยึดรากฟันเทียมได้
• All-on-6 มักเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความแข็งแรงและเสถียรมากขึ้น เนื่องจากมีการกระจายแรงที่ดีกว่า

⚠️ ข้อควรรู้

• ระยะเวลาการรักษาและการรอขึ้นอยู่กับสภาพกระดูกของแต่ละบุคคล

ในการรักษารากฟันเทียมจากมุมมองของ ดร.สุนิล, การปรึกษาหารือเรื่องแผนการรักษามีความสำคัญมาก. แผนการรักษาต้องเหมาะกับงบประมาณและกรอบเวลาและการติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง. ทีมของ คลินิกทันตกรรมดร.สุนิล จะติดตามผู้ป่วยของเราเสมอ