การถอนฟันถือเป็นหนึ่งในหัตถการทางทันตกรรมที่พบบ่อยที่สุด เหตุผลหลักคือ ฟันเกิดความเสียหาย จนไม่สามารถรักษาได้ เช่น ฟันแตก ฟันผุอย่างรุนแรง หรือมีการติดเชื้อ แต่ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ต้องถอนฟันหรือทำศัลยกรรมช่องปาก ดังนี้
เหตุผลที่ควรถอนฟัน
1. ฟันผุหรือการติดเชื้ออย่างรุนแรง
- หากฟันผุจนไม่สามารถอุดฟันหรือรักษารากฟันได้
- การติดเชื้อที่ลุกลามจนส่งผลต่อกระดูกและเหงือก
2. โรคเหงือกอักเสบรุนแรง (Periodontitis)
- เหงือกและกระดูกที่รองรับฟันถูกทำลาย จนไม่สามารถยึดฟันไว้ได้
3. ฟันแตกเป็นเสี่ยง ๆ
- ฟันแตกมากเกินกว่าจะบูรณะด้วยครอบฟันหรือการอุดฟันได้
4. การเตรียมพร้อมสำหรับการจัดฟัน
- ในบางกรณี ทันตแพทย์จำเป็นต้องถอนฟันบางซี่ เพื่อจัดเรียงฟันให้ได้ตำแหน่งที่เหมาะสม
5. ฟันที่มีลักษณะไม่ดี (Malpositioned teeth)
- ฟันซ้อน ฟันเกิน หรือฟันคุดที่ไม่สามารถขึ้นได้ตามปกติ
- อาจก่อให้เกิดปัญหาการบดเคี้ยวหรืออาการปวดในอนาคต
การถอนฟันเป็นหัตถการทางทันตกรรมที่ทำเมื่อต้องนำฟันที่ไม่สามารถเก็บรักษาไว้ได้ออกไป โดยทั่วไปแบ่งเป็น 2 ประเภท
1. การถอนฟันแบบธรรมดา (Simple Extraction)
ใช้ในกรณีที่ฟันอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นและเข้าถึงได้ง่าย ทันตแพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่ แล้วใช้เครื่องมือแยกและคีมถอนฟันดึงออกมา ขั้นตอนนี้ไม่ซับซ้อนและใช้เวลาไม่นาน
2. การถอนฟันแบบผ่าตัด (Surgical Extraction)
เหมาะกับฟันที่เข้าถึงยาก เช่น ฟันคุด, ฟันหักใต้เหงือก หรือรากฟันซับซ้อน อาจต้องมีการกรีดเหงือก, กรอแต่งกระดูก หรือแบ่งฟันออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อให้นำออกมาได้ง่ายและปลอดภัย
การดูแลหลังการถอนฟัน
หลังการถอนฟัน ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด ได้แก่
- พักผ่อนและงดออกกำลังกายหนัก 12–24 ชั่วโมงแรก
- อาการบวมในช่วง 2–3 วันแรก ถือเป็นเรื่องปกติ
- กัดผ้ากอซที่ปิดแผลให้แน่น 30–45 นาที และเปลี่ยนตามคำแนะนำหากยังมีเลือดซึม
- หลีกเลี่ยงการบ้วนน้ำแรง ๆ, การดูดน้ำด้วยหลอด และการสูบบุหรี่
- งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24–48 ชั่วโมง หลังถอนฟัน เนื่องจากแอลกอฮอล์มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดและการสมานแผล ทำให้เลือดออกมากขึ้นและแผลหายช้าลง
- ควรรักษาสุขอนามัยช่องปากโดยการแปรงฟันเบา ๆ บริเวณที่ไม่ได้มีแผล
คำเตือนและคำแนะนำหลังการถอนฟัน
-
เลือดออกหลังถอนฟันถือเป็นเรื่องปกติ
คนไข้บางรายอาจกังวลกับปริมาณเลือดที่เห็น แต่จริง ๆ แล้วเลือดเพียงเล็กน้อยเมื่อผสมกับน้ำลายจะดูมากกว่าความเป็นจริง หากมีเลือดออกเล็กน้อยในวันแรกถือว่าเป็นภาวะปกติ -
หลีกเลี่ยงการบ้วนปากแรง ๆ
ภายใน 24 ชั่วโมงแรก ควรหลีกเลี่ยงการบ้วนปากหรือกลั้วปากแรง ๆ เพราะอาจทำให้ลิ่มเลือดที่ปิดแผลหลุดออกไปได้ หลังจากนั้นสามารถบ้วนปากเบา ๆ ด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำเกลือเจือจางได้ -
การประคบเย็นเพื่อลดบวม
ในวันแรกหลังถอนฟัน ควรใช้น้ำแข็งประคบบริเวณแก้มที่ตรงกับแผลถอนฟัน ครั้งละประมาณ 15 นาที แล้วพัก 15 นาที ทำสลับกัน จะช่วยให้อาการบวมลดลงได้ -
อาหารที่ควรรับประทาน
แนะนำให้ทานอาหารอ่อนหรืออาหารเหลวในวันแรก–วันที่สอง เช่น โจ๊ก ซุป หรือน้ำผลไม้ หลีกเลี่ยงอาหารร้อนจัด เผ็ดจัด หรืออาหารแข็งที่ต้องใช้แรงเคี้ยว
กระบวนการหายของแผลถอนฟัน
หลังการถอนฟัน ร่างกายจะเริ่มฟื้นฟูตัวเองตามธรรมชาติ โดยกระบวนการหายสามารถแบ่งออกได้ดังนี้:
-
ช่วง 24 ชั่วโมงแรก
ร่างกายจะสร้างลิ่มเลือดขึ้นมาเพื่อปิดแผลบริเวณเบ้าฟัน ทำหน้าที่เป็น "เกราะป้องกัน" ธรรมชาติ หากลิ่มเลือดนี้หลุดออกไปเร็วเกินไป อาจทำให้แผลหายช้า หรือเกิดอาการเจ็บมากขึ้นได้ -
1–2 สัปดาห์หลังถอนฟัน
เนื้อเยื่ออ่อน (เหงือก) รอบ ๆ บริเวณที่ถอนจะเริ่มฟื้นฟูและปิดแผลทีละน้อย ระยะนี้คนไข้มักสังเกตได้ว่าอาการเจ็บและบวมจะค่อย ๆ ดีขึ้น -
ประมาณ 3–4 สัปดาห์
แผลที่เหงือกโดยส่วนใหญ่จะปิดและหายเป็นปกติ คนไข้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติมากขึ้น
อาการปกติที่อาจพบได้
- ลิ้นอาจสัมผัสได้ถึง ขอบกระดูกเล็ก ๆ บริเวณที่เคยมีฟัน ซึ่งจะค่อย ๆ ลดลงและเรียบขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
- อาการเหล่านี้ถือเป็น เรื่องปกติและไม่เป็นอันตราย
หากกระดูกเล็ก ๆ ทำให้รู้สึกรำคาญหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน คนไข้สามารถกลับมาพบทันตแพทย์เพื่อให้ทำการกรอหรือนำส่วนที่เกินออกได้
ฟันคุด และการถอนฟันคุด
ฟันคุด (Wisdom tooth) คือฟันกรามซี่สุดท้ายที่มักจะขึ้นในช่วงอายุ 17–25 ปี ฟันคุดบางซี่อาจขึ้นได้ปกติ แต่หลายกรณีจะขึ้นไม่เต็ม หรือขึ้นเอียง ทำให้ติดอยู่ในขากรรไกรหรือดันซ้อนกับฟันข้างเคียง ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากตามมา
ขั้นตอนการถอนฟันคุด
- เปิดเหงือก – ทันตแพทย์จะเปิดเนื้อเยื่อเหงือกบริเวณที่คลุมฟันคุด
- นำฟันออก – ใช้เครื่องมือเฉพาะทางในการดึงหรือนำชิ้นฟันออกมาอย่างระมัดระวัง
- ทำความสะอาดและเย็บแผล – ปิดแผลเพื่อให้หายเร็วขึ้นและลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
ประโยชน์ของการถอนฟันคุด
การถอนฟันคุดออกช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปากในอนาคต เช่น
- ป้องกัน ฟันกรามซ้อนเก หรือการดันฟันข้างเคียง
- ลดความเสี่ยงจาก ฟันคุดที่ฝังอยู่ในขากรรไกร ซึ่งอาจก่อให้เกิดถุงน้ำหรือซีสต์
- ป้องกันการ อักเสบและติดเชื้อของเหงือก รอบฟันคุด ที่ทำให้มีอาการบวม แดง และเจ็บปวด
- ลดโอกาสเกิด ฟันผุ ในบริเวณที่ทำความสะอาดได้ยาก